ประกาศความเป็นส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์
มีผลตั้งแต่:
เผยแพร่เมื่อ:
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อธิบายวิธีการที่ Volvo Cars (ดังที่ระบุไว้ด้านล่าง) ประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์และบริการที่มีการเชื่อมต่อจาก Volvo Cars
หากต้องการคำอธิบายเกี่ยวกับฟีเจอร์และฟังก์ชันของรถยนต์ โปรดตรวจสอบรุ่นที่เกี่ยวข้องในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ โปรดทราบว่าหากมีข้อมูลใดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในประกาศนี้ที่แตกต่างจากในคู่มือสำหรับเจ้าของรถ ให้ใช้ข้อมูลในประกาศนี้เป็นหลัก
เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลขึ้นอยู่กับฟีเจอร์และฟังก์ชันที่มาพร้อมกับรถยนต์ รวมถึงบริการที่ท่านเลือกเปิดใช้งาน เอกสารนี้จึงนำเสนอการประมวลผลในขอบเขตที่กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น หากท่านมีรถยนต์รุ่นเก่า หรือหากรถยนต์รุ่นใหม่ไม่ได้มาพร้อมกับฟีเจอร์หรือฟังก์ชันบางอย่าง จะไม่มีการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับฟีเจอร์นั้น
ประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ไม่บังคับใช้กับ:
- รถยนต์พิเศษ (เช่น รถตำรวจ)
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้ออกจากตัวรถ (การประมวลผลภายในรถ)
- การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อท่านติดต่อกับผู้ค้าปลีกรายใดรายหนึ่งของเรา (เช่น เมื่อท่านซื้อรถ)
- การใช้งานซอฟต์แวร์ แอป และบริการจากบุคคลที่สามของท่าน (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูข้อกำหนดและเงื่อนไขของผู้ให้บริการรายนั้น ๆ โดยเฉพาะ รวมถึงนโยบาย/ประกาศความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการ)
- การจัดหาบริการอินเทอร์เน็ต/ความสามารถในการเชื่อมต่อในรถของท่าน ซึ่งจัดไว้ให้โดยผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Volvo Cars
โปรดทราบว่า Volvo Cars มีประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับอื่น ๆ ที่ท่านควรอ่านประกอบกับข้อมูลนี้เพื่อให้เห็นภาพรวมอย่างครบถ้วน เราได้ระบุประกาศดังกล่าวไว้ดังนี้ ท่านสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายโดยไปตามลิงก์โดยตรง
ด้านล่างนี้จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ:
- เราคือใคร
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรานำมาใช้และเหตุผล
- 2.1 ข้อมูลที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านระบบข้อมูลและความบันเทิง
- 2.1.1 บันทึกการขับขี่
- 2.1.2 การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านทางอากาศ (Over the air)
- 2.1.3 Connected Safety (ความปลอดภัยที่มีการเชื่อมต่อ)
- 2.1.4 คีย์ดิจิทัล
- 2.1.5 ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
- 2.1.6 ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (Intelligent Speed Assist - ISA)
- 2.1.7 การรับส่งข้อความด้วยคำพูด (Speech Messaging)
- 2.1.8 ดัชนีคุณภาพอากาศ
- 2.1.9 ระบบส่งข้อมูลแผนที่
- 2.2 ข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย
- 2.2.1 เครื่องบันทึกข้อมูลความปลอดภัยต่อเนื่อง (Active Safety Data Recorder - ASDR)
- 2.2.2 เครื่องบันทึกข้อมูลเหตุการณ์ (Event Data Recorder - EDR)
- 2.2.3 การโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Emergency Call - eCall)
- 2.2.4 บริการของศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์
- 2.2.5 ระบบตรวจจับการบุกรุก
- 2.2.6 การรักษาแบตเตอรี่ให้ปลอดภัย
- 2.3 ข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม
- 2.3.1 การวางแผนเข้ารับบริการ
- 2.3.2 ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ในศูนย์บริการ
- 2.3.3 การรายงานข้อบกพร่อง
- 2.3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลรถแบบขยาย
- 2.4 ข้อมูลที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านการวิจัยและพัฒนา
- 2.4.1 การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน
- 2.4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลรถ
- 2.4.3 การวิเคราะห์และปรับปรุงรถยนต์
- 2.5 การรายงานการปล่อยไอเสีย
- 2.6 คำขอของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
- การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- สิทธิ์และการควบคุมของท่าน
- ข้อมูลการติดต่อ
- การปรับปรุงแก้ไขประกาศฉบับนี้
1. เราคือใคร
หน่วยงานที่รับผิดชอบการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ้างถึงด้านล่างนี้คือ Volvo Car Corporation ซึ่งมีสำนักงานจดทะเบียนอยู่ที่ Assar Gabrielssons Väg, SE-405 31 Gothenburg, Sweden เลขทะเบียนบริษัท 556074-3089 ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “Volvo Cars”, “เรา”, หรือ “ของเรา” ทั้งนี้ จะมีการระบุไว้หากหน่วยงานอื่นๆ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลร่วมกับเรา (หรือที่เรียกว่า ผู้ควบคุมร่วม)
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เรานำมาใช้และเหตุผล
2.1 ข้อมูลที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านระบบข้อมูลและความบันเทิง
2.1.1 บันทึกการขับขี่
บันทึกการขับขี่จะบันทึกข้อมูลการเดินทางทั้งหมดของท่านโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจมีประโยชน์หากท่านต้องการจัดการค่าใช้จ่ายในการเดินทางของตนเอง เป็นต้น ท่านจะต้องเป็นผู้เปิดใช้งานบันทึกการขับขี่ มิเช่นนั้นจะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูล
หากท่านเปิดใช้งานบันทึกการขับขี่ เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่ระบุถึงตัวท่าน เช่น ชื่อและนามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมลแอดเดรส หมายเลขตัวถังรถ (VIN) และตำแหน่งของรถยนต์ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการเดินทาง เช่น เส้นทาง ระยะเวลา ระยะทาง การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและ/หรือไฟฟ้า และเลขไมล์ ระบบจะเก็บรวบรวมข้อมูลเฉพาะตำแหน่งที่เริ่มต้นและสิ้นสุดหรือตลอดทั้งเส้นทาง ขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ของท่าน
เราประมวลผลข้อมูลนี้ตามความยินยอมของท่าน
และจะเก็บข้อมูลจากบันทึกการขับขี่ไว้ไม่เกิน 400 วัน ขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์ ท่านสามารถปิดใช้งานบันทึกการขับขี่ได้ทุกเมื่อ และหากทำเช่นนั้น ระบบจะหยุดการเก็บรวบรวมข้อมูล แต่จะไม่ลบข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ก่อนหน้านั้น
2.1.2 การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านทางอากาศ (Over the air)
การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านทางอากาศช่วยให้รถยนต์ของท่านบำรุงรักษาและอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นรุ่นล่าสุดได้โดยไม่ต้องไปที่ศูนย์บริการ การใช้ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดจะช่วยให้ท่านใช้บริการที่อัปเดตของเราโดยได้รับประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดยังช่วยเสริมการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ให้กับท่านด้วย
เราจะประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้เพื่อบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ของรถและส่งมอบการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่จำเป็น
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN)
- เวอร์ชันซอฟต์แวร์ของรถ
- รหัสปัญหาการตรวจวิเคราะห์ (Diagnostic trouble code - DTC)
- วันที่ผลิตรถ
- ข้อมูลทางเทคนิคของรถยนต์
- สถานะและรายงานการติดตั้ง
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ความยินยอมของท่าน
เราจะเก็บรักษาบันทึกการอัปเดตซอฟต์แวร์ไว้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์
ท่านสามารถยินยอมหรือไม่ยินยอมให้อัปเดตซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติได้ทุกเมื่อในการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว หากท่านยินยอม ระบบจะดาวน์โหลดไฟล์อัปเดตซอฟต์แวร์โดยอัตโนมัติและแจ้งให้ท่านทราบเมื่อพร้อมติดตั้ง หากไม่ยินยอม ระบบจะแจ้งให้ท่านทราบเมื่อมีอัปเดตใหม่ให้ดาวน์โหลด หากไม่ต้องการใช้การอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่านทางอากาศ ท่านสามารถติดตั้งอัปเดตได้ที่ศูนย์บริการโดยการเชื่อมต่อกับระบบของเรา
2.1.3 Connected Safety (ความปลอดภัยที่มีการเชื่อมต่อ)
รถยนต์ของเรามีบริการ Connected Safety ซึ่งจะแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับอันตรายบนท้องถนน ณ เวลานั้นๆ ขณะที่ท่านขับรถ ข้อมูลนี้อ้างอิงจากข้อมูลที่ส่งมาจากรถคันอื่นๆ หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ หากมี ข้อมูลนี้ใช้เพื่อแจ้งเตือนท่านแต่เนิ่นๆ เกี่ยวกับสภาพถนนที่มีการเปลี่ยนแปลงหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน โดยแสดงคำเตือนที่เหมาะสมเพื่อให้ท่านปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่ของตนให้สอดคล้องกัน หากรถของท่านตรวจพบอันตรายที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน เช่น แรงเสียดทานระหว่างยางรถของท่านกับถนนลดลง หรือหากไฟเตือนอันตรายเปิดใช้งานอยู่ ข้อมูลนี้จะถูกส่งไปยัง Volvo Cars ข้อมูลนี้จะถูกนำมารวมกันและทำให้เป็นข้อมูลนิรนามก่อนที่จะส่งไปให้รถยนต์ที่กำลังเข้าใกล้ตำแหน่งรถของท่าน
ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลเพื่อสนับสนุน Connected Safety มีดังนี้
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN)
- เหตุการณ์ เช่น การเปิดใช้งานการแจ้งเตือนถนนลื่น การเปิดใช้งานไฟเตือนอันตราย ฯลฯ
- การประทับเวลาของการเตือนแต่ละครั้ง
- ตำแหน่ง
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา ท่านสามารถเปิดหรือปิดใช้บริการได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวจะได้รับการประมวลผลโดยไม่ระบุชื่อและส่งไปยังหน่วยงานและบริษัทด้านการจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงและลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการจราจรบนท้องถนน รวมถึงเพื่อปรับปรุงความปลอดภัยบนท้องถนน ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และมีส่วนช่วยทำให้สภาพแวดล้อมการจราจรมีความยั่งยืน Volvo Cars และ Polestar Performance AB (บริษัทสวีเดนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Gothenburg, Assar Gabrielssons Väg 9, SE-405 31, Sweden ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “Polestar”) เป็นผู้ควบคุมร่วมสำหรับจุดประสงค์ดังกล่าวนี้ ในฐานะผู้ควบคุมร่วมภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) Volvo Cars และ Polestar มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการประมวลผลนี้ Volvo Cars และ Polestar ได้ตกลงกันว่า Volvo Cars มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาข้อมูลให้แก่ลูกค้าของตน และลูกค้าของวอลโว่จะเป็นผู้ใช้สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Volvo Cars
เราจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นเวลา 1 สัปดาห์
2.1.4 คีย์ดิจิทัล
คีย์ดิจิทัลสามารถใช้แทนกุญแจรถแบบดั้งเดิมได้อย่างเต็มรูปแบบ และช่วยให้ท่านสามารถล็อค ปลดล็อค หรือสตาร์ทรถของท่านโดยใช้สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอทช์ นอกจากนี้ ยังสามารถแชร์คีย์ของท่านกับผู้ใช้เพิ่มเติมผ่านทางช่องทางดิจิทัลต่างๆ
คีย์ดิจิทัลกำหนดเพียงให้เชื่อมต่อเครือข่ายในระหว่างการตั้งค่าเริ่มต้นแบบครั้งเดียว สำหรับการแชร์คีย์ หรือสำหรับการเพิกถอนคีย์ เมื่อตั้งค่าแล้ว คีย์จะใช้งานได้ผ่านทาง Bluetooth, Near Field Communication (NFC) และเทคโนโลยี Ultra-Wideband (UWB) ในระหว่างการตั้งค่า คีย์ของท่านจะถูกเพิ่มลงในแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลในอุปกรณ์สมาร์ทของท่าน จากแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าว ท่านสามารถแชร์คีย์ผ่านทางแอปส่งข้อความ อีเมล หรือผ่านทาง Airdrop® นอกจากนี้ ท่านสามารถเพิกถอนคีย์ที่ท่านเคยแชร์ไว้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะผ่านทางแอปกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือในระบบข้อมูลและความบันเทิงของรถยนต์
ข้อมูลต่อไปนี้จะได้รับการประมวลผลเมื่อใช้คีย์ดิจิทัล
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN)
- รายละเอียดของรถ
- สถานะของรถ
- Volvo ID
- ID กุญแจ
- ชื่อเล่น
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ตราบเท่าที่ท่านมีสัญญาที่มีผลใช้ได้
2.1.5 ข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์
บริการข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์จะรับข้อมูลเกี่ยวกับการจราจรบนท้องถนนจากผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
เราจะประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้จากรถยนต์
- ตำแหน่งและความเร็วของรถ – ข้อมูลเหล่านี้จะแบ่งปันกับผู้ให้บริการบุคคลที่สามเพื่อคำนวณความหนาแน่นพร้อมทั้งแจ้งให้ท่านและผู้ขับขี่คนอื่นๆ ทราบตำแหน่งที่การจราจรอาจจะหนาแน่น จุดข้อมูลเหล่านี้จะถูกปกปิดชื่อสำหรับผู้ให้บริการบุคคลที่สาม
- หมายเลขตัวถังรถ (VIN) – ใช้โดย Volvo Cars เพื่อยืนยันว่ารถของท่านได้สมัครใช้บริการนี้
รถรุ่นที่ติดตั้งเซนเซอร์ที่สามารถระบุสัญญาณจราจรแบบเรียลไทม์ได้ขณะที่ท่านขับขี่จะระบุสัญญาณจราจรผ่านการประมวลผลภายใน (ในตัวรถ) เท่านั้น
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา ท่านสามารถเปิดหรือปิดใช้บริการได้ตลอดเวลา
Volvo Cars จะจัดเก็บข้อมูลไว้ตราบเท่าที่ยังมีการสมัครใช้บริการอยู่ เมื่อยกเลิกการสมัครใช้บริการแล้ว หมายเลข VIN ความเร็วและตำแหน่งรถจะถูกจัดเก็บไว้เป็นเวลาสูงสุด 90 วัน เว้นแต่ว่ากฎหมายที่บังคับใช้ในท้องถิ่นกำหนดไว้นานกว่านั้น
2.1.6 ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ (Intelligent Speed Assist - ISA)
ระบบจำกัดความเร็วอัตโนมัติ (Intelligent Speed Assist - ISA) เป็นฟังก์ชันที่บางพื้นที่กำหนดให้ต้องติดตั้งไว้ ซึ่งจะจำกัดความเร็วของรถยนต์ไม่ให้เกินความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้ในป้ายจราจร ISA จะใช้ระบบนำทางของรถยนต์เพื่ออ่านข้อมูลในป้ายจราจร เพื่อให้ทราบขีดจำกัดความเร็วสูงสุดที่กำหนดไว้บนถนนเส้นนั้นๆ ซึ่งในการทำงานนี้ ระบบนำทางจะต้องทราบตำแหน่งของรถยนต์เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ Volvo Cars ต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการรายงานข้อมูลที่รวมไว้เกี่ยวกับการใช้งานรถยนต์ของท่าน เช่น
- ระยะเวลาหรือระยะทางที่ท่านเคยเดินทางโดยที่เปิดหรือปิดใช้งานระบบขั้นสูงของรถยนต์ไว้
- ระยะเวลาหรือระยะทางที่ท่านเคยเดินทางโดยที่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนขีดจำกัดความเร็วสูงสุดที่กำหนด
- ระยะเวลาระหว่างการเปิดและปิดใช้งานระบบขั้นสูงของรถยนต์
ข้อมูลต่อไปนี้จะได้รับการประมวลผลเพื่อสนับสนุน ISA และการรายงานที่เกี่ยวข้อง
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN)
- ความเร็วของรถ
- รายละเอียดของรถ (รุ่น ปีที่ผลิต)
- ข้อมูลที่รถยนต์สร้างขึ้น เซนเซอร์และระบบของรถยนต์ (คำเตือน ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ สถานะและพฤติกรรมของระบบขั้นสูงในรถยนต์)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับลักษณะการใช้งานและสั่งการรถ (การตั้งค่า การใช้ระบบขั้นสูงของรถยนต์)
- ตำแหน่ง
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้จนกว่าจะมีการรวมข้อมูลเข้าด้วยกันและส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
2.1.7 การรับส่งข้อความด้วยคำพูด (Speech Messaging)
การรับส่งข้อความด้วยคำพูด เป็นส่วนหนึ่งของระบบสั่งงานด้วยเสียงที่ใหญ่กว่า ซึ่งท่านสามารถควบคุมฟีเจอร์ต่างๆ ของระบบข้อมูลและความบันเทิงในรถยนต์ และให้ท่านสร้างและส่งข้อความ SMS ด้วยการออกคำสั่งทางวาจา ก่อนที่จะเริ่มการสนทนาโดยใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง ท่านต้องเปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ การควบคุมด้วยเสียงจะยังคงเปิดใช้งานต่อไปจนกว่าท่านจะปิดเอง หรือจนกว่าท่านไม่ได้ตอบสนองต่อข้อความแนะนำสามข้อความจากระบบ
ข้อมูลต่อไปนี้จะได้รับการประมวลผลเมื่อใช้การรับส่งข้อความด้วยคำพูด
- การสั่งงานหรือข้อมูลเสียงที่บันทึกไว้
- หมายเลขตัวถังรถ (VIN) - จะใช้ VIN เพื่อยืนยันว่ารถของท่านได้สมัครใช้บริการนี้
- หมายเลขโทรศัพท์
- ข้อความตัวอักษร - ข้อความตัวอักษรที่ผู้ให้บริการบุคคลที่สามสร้างขึ้นจะถูกจัดเก็บไว้ในคลาวด์ และถูกส่งกลับและบันทึกไว้ในรถยนต์ของท่าน สามารถส่งข้อความตัวอักษรในรูปแบบ SMS ได้
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้จนกว่าระบบจะส่งข้อความออกไป
2.1.8 ดัชนีคุณภาพอากาศ
ฟังก์ชันนี้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ เช่น ระดับมลพิษและละอองเกสรดอกไม้
ในเบื้องต้น ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศจากภายในรถยนต์จะแสดงขึ้น
หากท่านเลือกที่จะแชร์ตำแหน่งของรถยนต์ ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพอากาศจากภายนอกรถจะแสดงขึ้นเช่นกัน
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา
ข้อมูลดังกล่าวจะถูกลบหลังจากแสดงขึ้นในรถ
2.1.9 ระบบส่งข้อมูลแผนที่
รถยนต์บางรุ่นของเราสามารถขอข้อมูลแผนที่จากระบบส่งข้อมูลแผนที่ได้ ซึ่งบริการนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟังก์ชันต่างๆ ในรถยนต์ เช่น Pilot Assist และการควบคุมความเร็วรถแบบแปรผันตามคันหน้า (Adaptive Cruise Control) โดยการนำส่งข้อมูลแผนที่ล่าสุดของตำแหน่งปัจจุบันของท่าน
การเปิดใช้งานระบบส่งข้อมูลแผนที่จะมีการประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้
- ตำแหน่ง - ระบบจะประมวลผลตำแหน่งโดยคร่าวๆ (ในระยะความแม่นยำน้อยกว่า 0.8 กม.) รถยนต์จึงจะสามารถขอข้อมูลแผนที่ที่ถูกต้องได้²
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา
เราจะเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้จนกว่าจะดาวน์โหลดข้อมูลแผนที่แล้วเสร็จ
2.2 ข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับความปลอดภัย
2.2.1 เครื่องบันทึกข้อมูลความปลอดภัยต่อเนื่อง (Active Safety Data Recorder - ASDR)
จุดประสงค์หลักของเครื่องบันทึกข้อมูลความปลอดภัยต่อเนื่อง (ASDR) คือเพื่อบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับการชน ข้อมูลนี้จะได้รับการประมวลผลโดยแผนกวิจัยและพัฒนาของเราเพื่อช่วยให้เราเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุด้านการจราจร การบาดเจ็บ และความเสียหายได้ดียิ่งขึ้น
หากท่านให้ความยินยอม Volvo Cars จะเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้เพื่อจุดประสงค์ในการพัฒนาในอนาคตและข้อร้องเรียนเกี่ยวกับความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identity Number - VIN)
- ประเภทของเหตุการณ์ความปลอดภัยที่เกิดขึ้นและลักษณะที่เกิดขึ้น
- กล้องหน้าจะจับภาพในช่วง 4 วินาทีก่อนและหลังสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับการชน
- ตำแหน่งของรถ ณ เวลาที่เกิดเหตุ
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ความยินยอมของท่าน และเราจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวนี้เป็นเวลา 10 ปีก่อนที่เราจะลบทิ้งหรือทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม
2.2.2 เครื่องบันทึกข้อมูลเหตุการณ์ (Event Data Recorder - EDR)
รถยนต์จะเก็บบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับการชนหรือสถานการณ์ที่เกือบเกิดการชนในเครื่องบันทึกข้อมูลเหตุการณ์ (EDR) หรือที่เรียกว่า “กล่องดำ” ของรถ ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยนี้จะประกอบด้วยข้อมูลต่อไปนี้
- วิธีการทำงานของระบบต่างๆ ในรถยนต์ของท่าน
- ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้รัด/คาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่
- ผู้ขับขี่ได้เหยียบคันเร่งและ/หรือแป้นเบรกไปที่ระดับใด (หากทำ)
- รถยนต์กำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าใด
โดยปกติระยะเวลาที่บันทึกไว้คือไม่เกิน 30 วินาที การบันทึกจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เกิดการชนอย่างรุนแรงเท่านั้น
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้จนกว่าจะถูกเขียนทับโดยเหตุการณ์กระตุ้นครั้งใหม่
2.2.3 การโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน (Emergency Call - eCall)
การโทรแจ้งเหตุฉุกเฉิน (eCall) จะเริ่มการโทรแจ้งเหตุฉุกเฉินและการส่งข้อมูลโดยอัตโนมัติในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบางประเภท ซึ่งตรวจพบโดยการเปิดใช้งานเซนเซอร์อย่างน้อยหนึ่งตัวภายในรถยนต์ ด้วยเหตุนี้ รถยนต์อาจจะทำการโทร eCall โดยอัตโนมัติแม้ว่าผู้โดยสารทุกคนในรถจะหมดสติ และข้อมูลที่ระบุดังต่อไปนี้จะถูกส่งไปยังศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้สามารถเริ่มการโทร eCall ด้วยตัวเองโดยกดปุ่ม SOS ค้างไว้อย่างน้อย 2 วินาที
เมื่อมีการโทร eCall จะมีการประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN)
- การขับเคลื่อนของรถหรือข้อมูลทางเทคนิคของเครื่องยนต์
- ข้อมูลทางเทคนิคของรุ่นรถยนต์
- เวลาที่เกิดเหตุ
- ตำแหน่งที่เกิดเหตุ
- ทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
- สถานะของรถ
eCall จะถูกกำหนดเส้นทางไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามตามค่าเริ่มต้น (เรียกว่า eCall สำหรับผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สาม หรือ TPS eCall) (หากมี) และท่านสามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วยการติดต่อเราเกี่ยวกับซัพพลายเออร์ในพื้นที่ของท่าน ท่านสามารถเลือกที่จะให้กำหนดเส้นทางการโทรไปยังหน่วยบริการฉุกเฉินสาธารณะได้ตลอดเวลาโดยการปรับเปลี่ยนการตั้งค่า
ข้อมูลจะถูกเก็บรวบรวมเมื่อทำการโทร eCall เท่านั้น และหน่วยงานที่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้คือ Volvo Cars และบุคคลที่สามที่ให้บริการนี้เท่านั้น (หรือหน่วยบริการฉุกเฉิน หากได้เลือกไว้) อย่างไรก็ตาม หน่วยงานเหล่านี้อาจส่งต่อข้อมูลนี้ไปยังหน่วยบริการฉุกเฉินเฉพาะทาง (เช่น รถพยาบาล) หากจำเป็น
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นเวลา 200 วัน และจำกัดการประมวลผลสำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้น
2.2.4 บริการของศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์
บริการของศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์จะช่วยให้ท่านสามารถติดต่อกับศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ของเราได้จากภายในรถ โดยกดปุ่ม “On Call”/ช่วยเหลือ ผ่านการโทรจากภายในแอป หรือโทรหาศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์โดยตรง บริการต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของบริการของศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์มีดังนี้
บริการช่วยเหลือริมถนน (Roadside Assistance - RSA)
RSA จะให้บริการสนับสนุนช่วยเหลือเมื่อรถยนต์ของท่านมีความผิดปกติทางเทคนิค เช่น ยางแบนหรือเครื่องยนต์/มอเตอร์มีความผิดปกติ ในบางกรณีเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ในระหว่างการโทร แต่ในกรณีอื่นๆ อาจมีการดำเนินการซ่อมที่ริมถนน (เรียกว่า “การซ่อมแซม ณ จุดเกิดเหตุ”) หรือหากไม่สามารถทำได้ รถของท่านจะต้องถูกยก/ลากจูงไปซ่อมที่ศูนย์บริการ ในระหว่างการโทร เจ้าหน้าที่จะประเมินว่าควรดำเนินการตอบสนองอย่างไรให้เหมาะสม ในกรณีที่จำเป็นต้องทำการกู้คืนรถริมถนน (การซ่อมแซม ณ จุดเกิดเหตุหรือการยก/ลากจูงรถ) บุคคลที่สาม เช่น บริษัทซ่อมและยก/ลากจูงรถริมถนน อาจเป็นผู้ให้บริการยานพาหนะเพื่อการช่วยเหลือ แล้วทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การติดตามรถที่ถูกขโมย (Stolen Vehicle Tracking - SVT)
SVT เป็นวิธีหนึ่งในการระบุตำแหน่งรถยนต์ของท่านในกรณีที่ถูกขโมย ผู้ที่สามารถรายงานกรณีรถถูกขโมยมีดังนี้
- รถคันนั้นๆ เอง กรณีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อรถยนต์ตรวจพบเหตุการณ์ที่กระตุ้นสัญญาณกันขโมยของรถ ซึ่งทำให้ระบบส่งการแจ้งเตือนที่เรียกว่า “การแจ้งเตือนการโจรกรรม” ไปยังผู้ขับขี่ใดๆ ที่มีแอป Volvo Cars เชื่อมต่ออยู่กับรถดังกล่าว รวมถึงส่งไปยังศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ด้วย
- เจ้าของรถเอง ซึ่งจะเป็นผู้โทรไปหาศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์
- หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น (ตำรวจ) ซึ่งจะเป็นผู้โทรไปหาศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์โดยตรง
หากต้องการเริ่มกระบวนการ SVT ต้องมีการแจ้งความอย่างเป็นทางการและต้องส่งข้อมูลหมายเลขคดีไปให้ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์
ระบบป้องกันการสตาร์ทรถยนต์/ระบบการสตาร์ทรถยนต์จากระยะไกล (RVI/RVM)
RVI/RVM สามารถใช้ในการเปิดหรือปิดใช้งานอิมโมบิไลเซอร์ในรถยนต์ได้ หากอิมโมบิไลเซอร์ถูกเปิดใช้งาน รถยนต์จะไม่สามารถสตาร์ทได้จนกว่าจะปิดใช้งานอิมโมบิไลเซอร์ จากนั้นจึงสามารถสตาร์ทรถจากระยะไกลได้ บริการนี้จะดำเนินการได้โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์
ทั้งนี้ เพื่อให้บริการดังกล่าวข้างต้น เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้โดยอัตโนมัติเมื่อท่านติดต่อศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ผ่านทางปุ่ม “On Call”/ช่วยเหลือ ในรถหรือผ่านทางแอป Volvo Cars
- ป้ายทะเบียนรถ
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN)
- ข้อมูลทางเทคนิคของรถยนต์
- สถานะของรถ
- เวลาและสถานที่ที่ส่งคำขอ
- ตำแหน่ง ณ เวลาที่โทรติดต่อ
- ทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ
เราอาจต้องประมวลผลข้อมูลเพิ่มเติมที่จำเป็นเพื่อส่งมอบบริการช่วยเหลือตามคำขอสำหรับบริการต่างๆ ข้างต้น จากศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โดยขึ้นอยู่กับลักษณะและขอบเขตของคำขอ ยกตัวอย่างเช่น
- ข้อมูลการติดต่อ (ที่อยู่ทางไปรษณีย์ อีเมลแอดเดรส หมายเลขโทรศัพท์)
- รายละเอียดประกันภัย (กรมธรรม์และหมายเลขการเคลม)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกรรม
- สาเหตุของความเสียหายและข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บริการที่ดำเนินการซ่อมแซม
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา
เราจะเก็บข้อมูลดังกล่าวเป็นเวลา 200 วัน
2.2.5 ระบบตรวจจับการบุกรุก
เป้าหมายของระบบตรวจจับการบุกรุก (Intrusion Detection System - IDS) คือ การตรวจจับสิ่งผิดปกติและการละเมิดที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อระบบข้อมูลและความบันเทิงหลักในรถยนต์ ด้วยเหตุนี้ เราจะตรวจสอบการทำงานของซอฟต์แวร์และแอปเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการละเมิดสิทธิ์ที่ได้รับอนุญาต โดย IDS จะทำการตรวจสอบระบบในแบบเรียลไทม์และรายงานการละเมิดให้ Volvo Cars ทราบ
เราจะประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN)
- ไทม์สแตมป์ (เวลาเกิดเหตุที่แน่นอน)
- ข้อมูลว่าแหล่งที่มาใดเริ่มเป้าหมายใด
- ข้อมูลทางเทคนิค (เวอร์ชันซอฟต์แวร์ รายงานระบบและรายงานการชน การอนุญาต และใบรับรอง)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นเวลา 90 วัน จากนั้นเราจะลบข้อมูล หรือหากเราเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลไว้ เราจะทำให้เป็นข้อมูลนิรนามเมื่อระยะเวลาดังกล่าวนี้สิ้นสุดลง
2.2.6 การรักษาแบตเตอรี่ให้ปลอดภัย
เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ารถยนต์ของเราที่มีระบบส่งกำลังแบบไฮบริดหรือแบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบมีความปลอดภัย เพื่อปกป้องผู้ขับขี่ ครอบครัวของผู้ขับขี่ และสาธารณชนจากอันตรายและความไม่สะดวกที่ไม่จำเป็น ในการนี้ เราจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่เพื่อช่วยให้สามารถตรวจจับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นแต่เนิ่นๆ และเพื่อระบุประเภทความผิดปกติใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ หากจำเป็น เราจะติดต่อท่านและแจ้งให้ทราบถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมและใช้งานมีดังนี้
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์ (รุ่น ปีที่ผลิต หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับการขับเคลื่อนของรถยนต์และแบตเตอรี่ (ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แรงดันไฟของเซลล์แบตเตอรี่ สถานะประจุไฟฟ้า ข้อมูลการชาร์จ การกำหนดค่า การปรับเทียบ อุณหภูมิ สัญญาณเตือน คำเตือน ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ ไทม์สแตมป์ สถานะการทำงาน และสถานะโดยรวม)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเราดังที่ระบุไว้ ตลอดจนการปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น การเรียกคืนรถยนต์เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
เราจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวข้างต้นไว้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์
2.3 ข้อมูลที่ใช้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาและการซ่อมแซม
2.3.1 การวางแผนเข้ารับบริการ
การวางแผนเข้ารับบริการจะช่วยให้ท่านรักษารถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีเสมอและติดตามสถานะการทำงานของรถยนต์
เราจะส่งข้อมูลสื่อสารเกี่ยวกับการบริการไปให้ท่าน หากใช้ได้ในประเทศของท่าน
เมื่อรถยนต์ของท่านมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต การวางแผนเข้ารับบริการจะทำงานโดยส่งข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ไปให้ Volvo Cars, ผู้ค้าปลีก และศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง การให้ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์จากระยะไกลจะช่วยให้ศูนย์บริการของท่านสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการเข้ารับบริการที่ใกล้จะมาถึงของท่านได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ข้อมูลจะถูกแบ่งปันกับบริษัทจำหน่ายและผู้ค้าปลีกของเรา เพื่อจัดการการจองและการส่งมอบชิ้นส่วน หากจำเป็น
นอกจากนี้ การวางแผนเข้ารับบริการจะช่วยให้เรากำหนดเวลาการผลิตและการส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา โดยปรับการใช้เนื้อหา โลจิสติกส์ และศูนย์บริการให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้เพื่อดำเนินการวางแผนเข้ารับบริการให้แก่ท่าน
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์ (รุ่น ปีที่ผลิต หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
- ข้อมูลที่รถยนต์สร้างขึ้น เซนเซอร์และระบบของรถยนต์ (มาตรวัดระยะทาง ตัวระบุการเข้ารับบริการ สัญญาณเตือน คำเตือน ไฟ ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ อุณหภูมิ ไทม์สแตมป์ สถานะการทำงาน สถานะและพฤติกรรมของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ คือการปฏิบัติตามสัญญา ท่านสามารถเปิดหรือปิดใช้บริการได้ตลอดเวลา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลเป็นเวลา 3 ปี ยกเว้นข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงของรถยนต์ ซึ่งจะถูกเก็บรักษาเป็นเวลา 10 ปี
2.3.2 ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ในศูนย์บริการ
หากมีการให้บริการหรือซ่อมแซมรถยนต์ของท่าน ณ ศูนย์ซ่อม ศูนย์บริการ หรือคู่ค้า เราจะได้รับหรือใช้ข้อมูลเพื่อติดตามความผิดปกติ เพื่อจัดการหน้าที่ของเราในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เพื่อจุดประสงค์ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น การตรวจสอบติดตามและปรับปรุงคุณภาพรถยนต์ของเรา ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง และฟังก์ชันอื่นๆ
ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมและใช้งานมีดังนี้
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์ (รุ่น ปีที่ผลิต หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
- ข้อมูลที่รถยนต์สร้างขึ้น เซนเซอร์และระบบของรถยนต์ (มาตรวัดระยะทาง ตัวระบุการเข้ารับบริการ สัญญาณเตือน คำเตือน ไฟ ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ ข้อมูลความสามารถในการเชื่อมต่อและเครือข่าย ใบรับรองและข้อมูลการอนุญาต การปรับเทียบ อุณหภูมิ สภาพอากาศและสภาพถนน การสิ้นเปลืองพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิง ไทม์สแตมป์ สถานะการทำงาน สถานะและพฤติกรรมของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับลักษณะการใช้งานและสั่งการรถยนต์ (การกำหนดค่า การตั้งค่า การเชื่อมต่ออุปกรณ์ โหมดการใช้งาน (ชาร์จไฟ จอด ขับขี่) ข้อมูลการชาร์จ ไทม์สแตมป์ ความเร็ว จำนวนผู้โดยสารบนรถยนต์ การโต้ตอบ และการใช้ระบบข้อมูลและความบันเทิง (หน้าจอในรถยนต์) การใช้บริการระยะไกล การใช้ฟังก์ชันของรถยนต์ เช่น คันเร่ง เบรก พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัย และประตู)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา ตลอดจนการปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น การเรียกคืนรถยนต์เนื่องจากเหตุผลด้านความปลอดภัย
เราจะเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวข้างต้นไว้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์
2.3.3 การรายงานข้อบกพร่อง
การรายงานข้อบกพร่องเป็นเครื่องมือที่ศูนย์บริการสามารถเปิดใช้งานเพื่อให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ได้ โดยเราจะใช้เครื่องมือนี้เพื่อระบุและตรวจสอบผลกระทบของปัญหา แก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ ตลอดจนบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ การเปิดใช้งานการรายงานข้อบกพร่องจะมีการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลต่อไปนี้จากรถยนต์ของท่าน
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์ (เลขไมล์ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง การกำหนดค่ารถยนต์และรายละเอียด หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ที่อยู่ และเวอร์ชันซอฟต์แวร์)
- ข้อมูลจากระบบข้อมูลและความบันเทิง จอแสดงผลหลัก ระบบเทเลเมติกส์และโมดูลเสาอากาศเชื่อมต่อตลอดจนสัญญาณที่เกี่ยวข้อง (GPS, DID (ตัวระบุข้อมูล), DTC (รหัสปัญหาการตรวจวิเคราะห์), การวิเคราะห์การเชื่อมต่อเครือข่ายของรถยนต์, การวิเคราะห์ Android Automotive, การวิเคราะห์เมื่อระบบเริ่มทำงาน รวมถึงรายงานและไฟล์บันทึกสำหรับนักพัฒนา)
- ข้อมูลเกี่ยวกับการโต้ตอบกันระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ (ความเร็ว การตั้งค่าของระบบข้อมูลและความบันเทิง ปลายทางของระบบนำทาง สมุดโทรศัพท์ การตั้งค่าวิทยุ การตั้งค่าแอปพลิเคชันของบุคคลภายนอก บันทึกของบริการช่วยเหลือริมถนน)
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่ (บัญชีอีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, Volvo ID)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา
เราจะเก็บข้อมูลของท่านไว้จนกว่าปัญหาที่เกิดกับรถของท่านจะได้รับการแก้ไข หรือเป็นเวลา 90 วันขึ้นกับว่ากรณีใดเกิดทีหลัง
2.3.4 การวิเคราะห์ข้อมูลรถแบบขยาย
เราต้องใช้ข้อมูลต่อไปนี้จากรถยนต์ของท่านร่วมกับข้อมูลลูกค้าพื้นฐาน เช่น ชื่อและรายละเอียดการติดต่อ เพื่อตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ที่ท่านแจ้งให้เราทราบได้อย่างเต็มที่
- ข้อมูลที่บันทึกโดยเครื่องบันทึกข้อมูลเหตุการณ์และระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยของรถยนต์ (ความเร็ว ตำแหน่ง GPS มุมการบังคับเลี้ยว กำลังเบรก การทำงานและการใช้ระบบนิรภัย ฯลฯ)
- ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม (เช่น อุณหภูมิ ถนนลื่น) ที่เซนเซอร์ตัวอื่นๆ ของรถยนต์จับได้หรือที่ได้มาจากผู้ให้ข้อมูลนั้นๆ
- ข้อมูลจากระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ ระบบเทเลเมติกส์และโมดูลเสาอากาศเชื่อมต่อ และระบบข้อมูลและความบันเทิงของรถยนต์ รวมถึงสัญญาณที่เกี่ยวข้อง
- สถานะของรถยนต์ (เลขไมล์ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง มาตรวัดระยะทาง และข้อมูลอื่นๆ ที่แสดงในแผงหน้าปัด)
- การโต้ตอบทั้งหมดระหว่างผู้ขับขี่กับรถยนต์ เช่น การเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ชื่อบัญชี เช่น Volvo ID และ Google ID รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN)
ข้อมูลดังกล่าวจะถูกใช้ในการระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ จัดการเคสการรับประกันที่อาจเกิดขึ้น และจัดการปัญหาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปได้ หากไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าว Volvo Cars จะไม่สามารถตรวจสอบปัญหาได้
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้จนกว่าปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ของท่านได้รับการแก้ไข
2.4 ข้อมูลที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านการวิจัยและพัฒนา
2.4.1 การวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนท้องถนน
เมื่ออุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเรา เราจะตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการปรับปรุงความปลอดภัยของรถยนต์ ตลอดจนสภาพแวดล้อมการจราจรโดยรวม ทั้งนี้ หากจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยของเรา เราจะส่งแบบสำรวจไปให้ท่านเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าว
เมื่อทำการวิจัย ข้อมูลต่อไปนี้จะได้รับการประมวลผล
- รายละเอียดการติดต่อ
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์ (รุ่น ปีที่ผลิต หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ป้ายทะเบียนรถ ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
- ข้อมูลที่ได้จากรถยนต์ เซนเซอร์ และระบบของรถยนต์ (วัตถุใกล้เคียง ข้อมูลเครื่องยนต์ ข้อมูลสัญญาณค้าง มาตรวัดระยะทาง สภาพอากาศและสภาพถนน อุณหภูมิ ตัวระบุการเข้ารับบริการ สัญญาณเตือน คำเตือน ไฟสถานะ ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ การเชื่อมต่อและข้อมูลเครือข่าย ข้อมูลการรับรองและการอนุญาต การปรับเทียบ การสิ้นเปลืองพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิง ไทม์สแตมป์ สถานะการทำงานของรถยนต์ สถานะและพฤติกรรมของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับลักษณะการใช้งานและสั่งการรถยนต์ (การกำหนดค่า การตั้งค่า การเชื่อมต่ออุปกรณ์ โหมดการใช้งาน (ชาร์จไฟ จอด ขับขี่) ข้อมูลการชาร์จ ไทม์สแตมป์ ความเร็ว จำนวนผู้โดยสารบนรถยนต์ การโต้ตอบ และการใช้ระบบข้อมูลและความบันเทิง (หน้าจอในรถยนต์) การใช้บริการระยะไกล การใช้ฟังก์ชันของรถยนต์ เช่น คันเร่ง เบรก พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัยและประตู และการทำงานของกลไกกระตุ้นถุงลมนิรภัย)
- ข้อมูลตำแหน่ง
- ข้อมูลกล้อง: กล้องที่หันออกด้านนอกจะจับภาพในช่วง 4 วินาทีก่อนและหลังอุบัติเหตุ
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา
เราจะเก็บรักษาข้อมูลของท่านเป็นเวลา 10 ปี
2.4.2 การวิเคราะห์ข้อมูลรถ
เราประมวลผลข้อมูลรถ (ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง) เพื่อรับข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับรถของท่านและวิธีการใช้งานรถ เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อจุดประสงค์ด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อปรับปรุงและตรวจสอบคุณภาพรถและฟีเจอร์ความปลอดภัยของรถ รวมทั้งเพื่อดำเนินการตามการรับประกันของ Volvo Cars และเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับการตรวจสอบการปล่อยไอเสีย
หมวดหมู่ข้อมูลที่นำมาใช้:
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN)
- ตัวระบุเวอร์ชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของรถ
- รหัสปัญหาการตรวจวิเคราะห์ (Diagnostic trouble code - DTC)
นอกจากนี้รถยนต์วอลโว่ยังเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไปนี้เกี่ยวกับแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงของรถด้วย (หากมี):
- ID แบตเตอรี่แรงดันไฟสูง ความจุ และสถานะการทำงาน
- ข้อมูลตลาดของรถ
- ข้อมูลสถานีชาร์จ (เช่น สถานะความพร้อมใช้งาน, ประเภทแหล่งจ่ายไฟ, ID เสาชาร์จ เป็นต้น)
- ข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ระหว่างการชาร์จ (เช่น ระยะเวลา สถานะการชาร์จ ไฟกระเพื่อม ฯลฯ)
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ ความยินยอมของท่าน
ข้อมูลหมายเลขตัวถังรถ (Vehicle identification number - VIN) ตัวระบุเวอร์ชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของรถ และรหัสปัญหาการตรวจวิเคราะห์ (Diagnostic trouble code - DTC) จะถูกเก็บรักษาไว้เป็นเวลา 2 ปี ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่แรงดันไฟสูงของรถจะถูกเก็บไว้ตลอดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
ในกรณีของรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้า Volvo Cars และ Polestar Performance AB (บริษัทสวีเดนซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Gothenburg, Assar Gabrielssons Väg 9, SE-405 31, Gothenburg, Sweden ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “Polestar”) แบ่งปันข้อมูลการวิเคราะห์จากรถยนต์ที่เกี่ยวข้องของตน ข้อมูลการวิเคราะห์ที่แลกเปลี่ยนระหว่าง Volvo Cars และ Polestar ตามที่ระบุไว้ข้างต้น เป็นข้อมูลทางเทคนิคเท่านั้น และไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลตามจริงของลูกค้า ข้อมูลการวิเคราะห์ที่เก็บรวบรวมผ่านแพลตฟอร์มของ Volvo Cars และ Polestar จะถูกแลกเปลี่ยนระหว่างสองบริษัทเพื่อจุดประสงค์ในการปรับปรุงและตรวจสอบคุณภาพของรถ ประสิทธิภาพของฟีเจอร์ไฟฟ้าและไฮบริด รวมทั้งฟีเจอร์ความปลอดภัยต่างๆ
ในฐานะผู้ควบคุมร่วมภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) Volvo Cars และ Polestar มีหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในการประมวลผลข้อมูลการวิเคราะห์นี้ Volvo Cars และ Polestar ได้ตกลงกันว่า Volvo Cars มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดหาข้อมูลให้แก่ลูกค้าของตน และลูกค้าของวอลโว่จะเป็นผู้ใช้สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป (GDPR) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Volvo Cars
2.4.3 การวิเคราะห์และปรับปรุงรถยนต์
หากท่านให้ความยินยอมด้วยการเปิดใช้งานการวิเคราะห์และปรับปรุงรถยนต์ เราจะเก็บและใช้ข้อมูล (ตามรายการด้านล่าง) เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์และการใช้รถยนต์ของท่าน ซึ่งเราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อการสืบหาความผิดปกติ การวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น เพื่อตรวจติดตามและปรับปรุงความคงทนและคุณภาพของรถยนต์ของเรา ตลอดจนฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและฟังก์ชันอื่นๆ นอกจากนี้ หากจำเป็น เราจะติดต่อท่านและแจ้งให้ทราบถึงปัญหาหรือความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมและใช้งานมีดังนี้
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับรถยนต์: รุ่น ปีที่ผลิต หมายเลขตัวถังรถ (VIN) ข้อมูลฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
- ข้อมูลที่ได้จากรถยนต์ เซนเซอร์ และระบบของรถยนต์: มาตรวัดระยะทาง ตัวระบุการเข้ารับบริการ สัญญาณเตือน คำเตือน ไฟสถานะ ความผิดปกติ การตรวจวิเคราะห์ การเชื่อมต่อและข้อมูลเครือข่าย ข้อมูลการรับรองและการอนุญาต การปรับเทียบ อุณหภูมิ สภาพอากาศและสภาพถนน การสิ้นเปลืองพลังงานและน้ำมันเชื้อเพลิง ไทม์สแตมป์ สถานะการทำงาน สถานะของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์ พฤติกรรมของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์ และเอาท์พุตของระบบและฟังก์ชันภายในรถยนต์
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับลักษณะการใช้งานและสั่งการรถยนต์: การกำหนดค่า การตั้งค่า การเชื่อมต่ออุปกรณ์ การพ่วงท้าย โหมดการใช้งาน (ชาร์จไฟ จอด ขับขี่) ข้อมูลการชาร์จ ไทม์สแตมป์ ความเร็ว จำนวนผู้โดยสารบนรถยนต์ การโต้ตอบ และการใช้ระบบข้อมูลและความบันเทิง (หน้าจอในรถยนต์) การใช้บริการระยะไกล การใช้ฟังก์ชันของรถยนต์ เช่น คันเร่ง เบรก พวงมาลัย เข็มขัดนิรภัย และประตู
- ข้อมูลตำแหน่ง: ระบบจะเก็บข้อมูลตำแหน่งในกรณีต่อไปนี้นอกจากนี้ ฟังก์ชันความปลอดภัย ระบบขับขี่อัตโนมัติ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงยังเก็บรวบรวมข้อมูลตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง
- เหตุการณ์เกือบอุบัติเหตุและอุบัติเหตุ
- มีการสั่งงานฟังก์ชัน eCall และ
- เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ
- ข้อมูลกล้อง: ระบบจะเก็บภาพจากกล้องที่ถ่ายภาพภายนอกรถ
- ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เกือบอุบัติเหตุและอุบัติเหตุ
- นอกจากนี้ ฟังก์ชันความปลอดภัย ระบบขับขี่อัตโนมัติ และระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูงจะเก็บรวบรวมข้อมูลนี้อย่างต่อเนื่อง
มูลฐานทางกฎหมายในการรวบรวมและใช้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นคือ ความยินยอมของท่าน
เราจะเก็บข้อมูลไว้เป็นเวลาห้าปี ยกเว้นข้อมูลแบตเตอรี่แรงดันสูงของรถยนต์ซึ่งเราจะเก็บไว้ตลอดอายุของแบตเตอรี่ เมื่อครบห้าปี เราจะลบข้อมูลดังกล่าว หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลไว้ เราจะทำให้ข้อมูลนั้นไม่สามารถระบุถึงตัวผู้ใช้ได้อย่างสิ้นเชิง
2.5 การรายงานการปล่อยไอเสีย
หากท่านมีรถยนต์ที่เครื่องยนต์สันดาปภายในและท่านไปศูนย์บริการวอลโว่ที่ได้รับอนุญาตหรือคู่ค้าการให้บริการ ศูนย์ดังกล่าวจะเก็บรวบรวมข้อมูลจากรถยนต์ของท่าน ซึ่งจะถูกส่งมาให้เราเพื่อรายงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การเก็บรวบรวมข้อมูลเช่นนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่รถยนต์ของท่านเข้ารับบริการ เว้นแต่ท่านจะแจ้งผู้ค้าปลีกที่ให้บริการว่าท่านปฏิเสธการเก็บรวบรวมดังกล่าว
ข้อมูลที่เก็บรวบรวม ได้แก่
- หมายเลขตัวถังรถ (Vehicle Identification Number - VIN)
- ข้อมูลที่เกี่ยวกับการปล่อยไอเสีย: น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมดที่ใช้ไป (ตลอดอายุการใช้งานของรถ) ระยะทางทั้งหมดที่เดินทาง (ตลอดอายุการใช้งานของรถ) พลังงานแบบกริดทั้งหมดที่เข้าไปในแบตเตอรี่ (ตลอดอายุการใช้งานของรถ) โดยมีการแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนๆ ตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
มูลฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวข้างต้นของเราคือ การปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายของเรา
ข้อมูลข้างต้นจะได้รับการเก็บรักษาไว้จนกว่าจะมีการรายงานข้อมูล
2.6 คำขอของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
เราจำเป็นต้องหรืออาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย (เช่น ตำรวจ ศาล) เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมาย หรือผลประโยชน์ตามกฎหมายของเราในการเปิดเผยข้อมูล หรือเมื่อสงสัยว่าจะมีอาชญากรรมเกิดขึ้น หรือเมื่อจำเป็นในการดำเนินการ ใช้ หรือปกป้องเราจากการเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย
เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายให้น้อยที่สุดเฉพาะที่จำเป็น
ตัวอย่างประเภทข้อมูลที่เราสามารถเปิดเผยได้ ได้แก่ หมายเลขซีเรียลของชิ้นส่วนรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับหมายเลขตัวถังรถหรือหมายเลข IMEI
3. การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เราจะแบ่งปันข้อมูลกับองค์กรหลายแห่งเพื่อดำเนินธุรกิจของเรา เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับท่าน และเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการแก่ท่าน เราอธิบายสถานการณ์ดังกล่าวไว้ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่เราเรียกองค์กรเหล่านี้ว่า “ซัพพลายเออร์” “ผู้ประมวลผล” หรือ “ผู้ประมวลผลย่อย” องค์กรแต่ละแห่งดังกล่าวนี้มีความสามารถจำกัดตามสัญญาในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจุดประสงค์อื่นใดนอกเหนือจากการให้บริการแก่เราหรือในนามของเรา ตามที่เราสั่งการ ในแต่ละกรณี เราจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงข้อมูลเทเลเมติกส์ก็ต่อเมื่อเราเห็นว่ามีความจำเป็นในการบรรลุจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้อง
บริษัทอื่นๆ ภายในเครือ Volvo Cars และผู้ประมวลผลย่อยของตน
- ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกถ่ายโอนไปยังบริษัทอื่นๆ ในเครือเพื่อดูแลลูกค้า ส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการของเรา และจัดหาระบบไอทีสำหรับการสนับสนุนธุรกิจและการจัดเก็บข้อมูล
ซัพพลายเออร์ด้านไอทีและผู้ประมวลผลย่อยของตน
- ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกถ่ายโอนไปยังซัพพลายเออร์ด้านไอทีซึ่งเป็นผู้จัดหาระบบสนับสนุนธุรกิจทั่วไปให้แก่เรา เช่น ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์และการจัดเก็บข้อมูล
หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย (เช่น ตำรวจ ศาล)
- เราจำเป็นต้องหรืออาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย (เช่น ตำรวจ ศาล) เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพันทางกฎหมาย หรือผลประโยชน์ตามกฎหมายของเราในการเปิดเผยข้อมูล หรือเมื่อสงสัยว่าจะมีอาชญากรรมเกิดขึ้น หรือเมื่อจำเป็นในการดำเนินการ ใช้ หรือปกป้องเราจากการเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย
ผู้ให้บริการอื่นๆ (เช่น ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ ผู้ให้บริการความสามารถในการเชื่อมต่อ ผู้ให้บริการการชาร์จไฟฟ้า)
- เราสามารถแบ่งปันข้อมูลจากรถยนต์และข้อมูลการสมัครใช้งานเพื่อเปิดใช้งานบริการ เพื่อจุดประสงค์ในการติดตามความผิดปกติและการปรับปรุงบริการ
ฝ่ายใดก็ตามที่ท่านอนุมัติ
- ตัวอย่างเช่น ท่านอาจขอให้เราเปิดเผยข้อมูลรถยนต์แก่บุคคลที่สาม เช่น บริษัทประกันภัย เพื่อจัดทำใบเสนอราคาประกันภัยให้กับท่าน
เจ้าของรถยนต์บุคคลที่สาม
- ตัวอย่างเช่น บริษัทจัดการรถฟลีทหรือรถเช่าอาจประมวลผลข้อมูลที่ได้มาจากรถยนต์และการขับขี่ของท่าน รวมถึงข้อมูลตำแหน่ง สำหรับรถยนต์ที่บริษัทดังกล่าวเป็นเจ้าของหรือจัดการอยู่
ผู้ค้าปลีก ผู้ซ่อมแซม ศูนย์บริการ
- ข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการถ่ายโอนเพื่อจุดประสงค์ในการให้บริการ ติดตามความผิดปกติ บำรุงรักษา และซ่อมแซม
4. สิทธิ์และการควบคุมของท่าน
4.1 สิทธิ์ของท่านภายใต้กฎหมาย GDPR
ท่านมีสิทธิ์เฉพาะทางกฎหมายที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเราประมวลผลเกี่ยวกับท่าน สิทธิ์อาจแตกต่างกันไปตามเขตอำนาจรัฐที่ท่านพำนักอยู่และลักษณะของการประมวลผล
โดยทั่วไป สิทธิ์ของท่านจะเกี่ยวข้องกับความเป็นไปได้ในการดำเนินการต่อไปนี้
- ถอนความยินยอมของท่าน
- ปฏิเสธการที่เราประมวลผลข้อมูลของท่าน
- ขอสำเนาข้อมูลที่เราเก็บไว้เกี่ยวกับท่าน (หรือเรียกว่า สิทธิ์ในการเข้าถึงของเจ้าของข้อมูล)
- ขอให้ถ่ายโอนข้อมูลไปยังหน่วยงานอื่น (หรือที่เรียกว่า ความสามารถในการเคลื่อนย้ายข้อมูล)
- ขอให้แก้ไขหรือจำกัดข้อมูล
- ขอให้ลบข้อมูล (หรือที่เรียกว่า สิทธิ์ที่จะถูกลืม)
ดังที่ได้กล่าวไว้ สิทธิ์เหล่านี้ไม่ถือเป็นเด็ดขาด และในบางกรณีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลจะจำกัดการใช้สิทธิ์ดังกล่าว หากคำขอของท่านจัดอยู่ในกรณีนี้ เราจะอธิบายเหตุผลให้ทราบท่านเสมอว่าเพราะเหตุใดเราจึงไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของท่านได้
หากท่านต้องการส่งคำขอเกี่ยวกับสิทธิ์ ท่านสามารถติดต่อเราได้โดยกรอกแบบฟอร์มนี้ โปรดใช้แบบฟอร์มดังกล่าวนี้เนื่องจากจะระบุข้อมูลที่เราต้องการในการตรวจสอบตัวตนของท่านและปฏิบัติตามคำขอของท่านอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะใช้แบบฟอร์มนี้ ท่านสามารถติดต่อเราและส่งคำขอของท่านโดยใช้ข้อมูลการติดต่อในข้อถัดไป
นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิ์ส่งเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานปกป้องข้อมูลในประเทศของท่าน หากท่านมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับวิธีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่เราจะขอบพระคุณอย่างยิ่งหากท่านติดต่อเราโดยตรงเพื่อแจ้งปัญหาดังกล่าวก่อนและเพื่อให้เราสามารถหาทางออกร่วมกันได้ ท่านสามารถดูข้อมูลการติดต่อเราได้ที่ด้านล่าง
4.2 สิทธิ์ของท่านภายใต้กฎหมาย PDPA
นอกเหนือจากสิทธิ์ของท่านภายใต้ GDPR ในฐานะเจ้าของข้อมูลในประเทศไทยแล้ว ท่านยังมีสิทธิ์ตามกฎหมายเฉพาะที่มอบให้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย พ.ศ. 2562 ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราประมวลผลเกี่ยวกับท่าน ซึ่งจะมีการอธิบายรายละเอียดสั้นๆ ไว้ด้านล่าง และท่านสามารถใช้สิทธิ์ได้โดยกรอกแบบฟอร์มการใช้สิทธิ์ที่ระบุไว้ด้านล่าง
- สิทธิ์ในการเพิกถอนความยินยอม เมื่อท่านให้ความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อ โดยการถอนความยินยอมนั้นจะมีผลบังคับใช้ภายหลังจากที่ท่านได้เพิกถอนความยินยอมแล้ว
- สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านอาจขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เรามีเกี่ยวกับตัวท่านจากเราได้ เราจะมอบสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอ หากท่านขอสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่ม เราจะคิดค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผลตามค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ท่านมีสิทธิ์รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยที่ใช้กับการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศอื่นที่อยู่นอกประเทศไทย หากท่านขอให้เรายืนยันว่าเราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเราจะถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศที่อยู่นอกประเทศไทยหรือไม่
- สิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูล: ท่านอาจขอให้เราแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ เราใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองหรือการควบคุมของเราซึ่งจะมีการใช้ตามหลักเกณฑ์ ความถูกต้อง ความสมบูรณ์ ความทันสมัย และความเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลใหม่ล่าสุดที่เรามี
- สิทธิ์ในการจำกัด: ท่านอาจขอให้เราจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หาก:
- ท่านคัดค้านความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับช่วงเวลาที่เราจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้อง
- การประมวลผลผิดกฎหมายและท่านร้องขอการจำกัดการประมวลผลแทนการลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
- เราไม่ต้องการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจุดประสงค์ด้านการประมวลผลอีกต่อไป แต่ท่านยังต้องการเพื่อดำเนินการ ใช้ หรือโต้แย้งการเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย หรือ
- ท่านคัดค้านการประมวลผลขณะที่เราตรวจสอบว่าเหตุอันชอบด้วยกฎหมายของเราลบล้างกับเหตุอันชอบด้วยกฎหมายของท่านหรือไม่
- สิทธิ์ในการโอนย้าย: ท่านมีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านได้มอบให้กับเรา และร้องขอให้เราส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ที่ท่านได้มอบให้กับเรา) ไปยังองค์กรอื่นเมื่อเป็นไปได้ในทางเทคนิค หาก:
- เราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามความยินยอมจากท่าน หรือเราจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติหรือดำเนินการตามสัญญาที่ท่านลงนาม
- ท่านเป็นผู้มอบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเรา และ
- สิทธิ์ในการโอนย้ายข้อมูลของท่านไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นๆ
- ท่านมีสิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่มีโครงสร้าง ใช้กันโดยทั่วไป และเครื่องจักรสามารถอ่านได้ สิทธิ์ที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะต้องไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น สิทธิ์ที่จะส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากเราไปยังองค์กรอื่นคือสิทธิ์ที่ท่านมีหากการส่งดังกล่าวเป็นไปได้ในทางเทคนิค
- สิทธิ์ในการลบข้อมูล: ท่านมีสิทธิ์ขอให้เราลบข้อมูลส่วนบุคคลที่เราประมวลผลเกี่ยวกับตัวท่าน เราต้องปฏิบัติตามคำขอนี้หากเราประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ว่าการประมวลผลนั้นจำเป็น:
- เพื่อการใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและข้อมูล
- เพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายซึ่งกำหนดให้ต้องประมวลผลตามกฎหมายซึ่งเราต้องปฏิบัติตาม
- เพื่อบรรลุจุดประสงค์ด้านสาธารณประโยชน์ จุดประสงค์ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หรือประวัติศาสตร์ หรือจุดประสงค์ทางสถิติ หรือ
- เพื่อดำเนินการ ใช้ หรือโต้แย้งการเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย
- สิทธิ์ในการคัดค้าน ท่านอาจคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเนื่องด้วยสถานการณ์เฉพาะของท่านได้ทุกเมื่อ หากว่าการประมวลผลไม่ได้เป็นไปตามความยินยอมของท่าน แต่เป็นไปตามผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลที่สาม ในกรณีนี้เราจะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป เว้นแต่เราจะสามารถแสดงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่มีน้ำหนักและผลประโยชน์ที่ลบล้างได้สำหรับการประมวลผลหรือการดำเนินการ การใช้หรือการโต้แย้งการเรียกร้องสิทธิ์ทางกฎหมาย หากท่านคัดค้านการประมวลผล โปรดระบุว่าท่านต้องการให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นเราจะทำเพียงแค่จำกัดข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิ์คัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการตลาดทางตรง (ซึ่งรวมถึงการทำแฟ้มประวัติเท่าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตลาดทางตรงดังกล่าว) หากการประมวลผลดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา โดยท่านสามารถคัดค้านได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากการทำการตลาดทางตรงดังกล่าวได้ถูกทำโดยยึดตามความยินยอมของท่าน ท่านสามารถเพิกถอนความยินยอมได้ (ดูที่ด้านบน)
- สิทธิ์ในการยื่นข้อร้องเรียน ท่านสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเราไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม เราจะขอขอบคุณหากท่านจะติดต่อเราก่อนเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาของท่าน ท่านสามารถดูรายละเอียดการติดต่อเราได้ที่ด้านล่าง
ท่านสามารถใช้สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเราได้โดยกรอก แบบฟอร์ม นี้ (อันดับแรก เลือกประเทศหรือภูมิภาค จากนั้นเปิดและกรอกแบบฟอร์มออนไลน์) ซึ่งจะช่วยให้เราจัดการกับคำขอของท่านได้อย่างเหมาะสม แบบฟอร์มออนไลน์ประกอบด้วยข้อมูลที่เราจำเป็นต้องใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและตรวจสอบคำขอของท่าน สำหรับคำขอที่ส่งทางโทรศัพท์หรืออีเมล ท่านจะต้องให้ข้อมูลแก่เราอย่างเพียงพอเพื่อให้เราสามารถยืนยันได้อย่างสมเหตุสมผลว่าท่านคือบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมไว้และอธิบายคำขอของท่านอย่างละเอียดเพียงพอเพื่อช่วยให้เราประเมินและดำเนินการตามคำขอได้อย่างเหมาะสม หากท่านไม่สามารถยืนยันตัวตนเพื่อขอเข้าถึงและลบข้อมูลด้วยข้อมูลที่ให้ไว้ เราอาจขอข้อมูลเพิ่มเติมจากท่าน
5. ข้อมูลการติดต่อ
หากท่านมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับวิธีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อเราที่ dataprotection@volvocars.com หรือเจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านการปกป้องข้อมูลดังนี้
ที่อยู่ทางไปรษณีย์: Volvo Car Corporation, Attention: The Data Protection Officer, dep 50099, VAK, 405 31 Gothenburg, Sweden
อีเมล: globdpo@volvocars.com
นอกจากนี้ ผู้พำนักอาศัยในประเทศไทยสามารถติดต่อบริษัทจำหน่ายของเราในประเทศ นั่นคือ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เช่นกันตามรายละเอียดการติดต่อดังนี้
ที่อยู่ทางไปรษณีย์: 622 ชั้น 14/2-5 อาคารเอ็มโพเรี่ยม ทาวเวอร์ ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 ประเทศไทย
อีเมลแอดเดรส: dpothai@volvocars.com
6. การปรับปรุงแก้ไขประกาศฉบับนี้
เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของเราอย่างต่อเนื่อง และจะตรวจสอบและปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้เป็นปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ เราจึงขอให้ท่านกลับมาอ่านประกาศความเป็นส่วนตัวนี้เป็นประจำ วันที่ที่ด้านบนของประกาศความเป็นส่วนตัวนี้จะบ่งบอกว่าประกาศฉบับนี้ได้รับการปรับปรุงล่าสุดเมื่อใด เราจะดำเนินการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับประกาศความเป็นส่วนตัวที่กำหนดให้รวบรวมข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่เราได้รับความยินยอมจากท่านให้ดำเนินการต่างออกไป