Baby on Board เพราะความปลอดภัยของ(ลูก)คุณสำคัญ
ถึงเวลาแล้วที่ผู้ปกครองจะใส่ใจอย่างจริงจังต่อความปลอดภัยของเด็กขณะเดินทาง อย่างไรก็ตามยังมีผู้คนจำนวนมากที่ยังไม่เห็นความสำคัญของการใช้คาร์ซีทหรือเข็มขัดนิรภัยกับลูกน้อยขณะเดินทาง

ความปลอดภัยของ(ลูก)คุณสำคัญ
การเดินทางโดยไม่ใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความไม่ปลอดภัย แต่กำลังจะกลายเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ได้มีประกาศว่าด้วยเรื่องของการบังคับใช้คาร์ซีท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 โดยเด็กที่มีอายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 ซม. จะต้องนั่งคาร์ซีทเพื่อความปลอดภัยขณะเดินทางด้วยรถยนต์ ทำให้ครอบครัวที่มีลูกน้อยต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางครั้งต่อไปมากยิ่งขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วกฎหมาย “คาร์ซีท” ได้มีการบังคับใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศสหราชอาณาจักร ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ ก็มีการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ข้อมูลจาก ผศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีในปี 2557 บอกว่า ในช่วง 14 ปีหลังมานี้มีเด็กไทยอายุน้อยกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจราจร 14,669 คน หรือเฉลี่ยปีละ 104 คน และ ‘อุบัติเหตุทางรถยนต์’ นับเป็นหนึ่งในสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของเด็ก
เนื่องจากเด็กมีศีรษะหนัก ลำตัวเล็ก มีกระดูกต้นคอที่อ่อน อวัยวะภายในช่องท้องค่อนข้างใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กจึงมีลักษณะการเคลื่อนตัวคล้ายลูกแบดมินตันคือ ‘พุ่งแรง’ ทะลุออกนอกรถได้ง่าย ทำให้สมอง ก้านคอ และม้ามแตกซึ่งระบบยึดเหนี่ยวในรถที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่จึงไม่เหมาะกับเด็ก ผู้ปกครองหลายท่านมักมีความเชื่อว่าการให้เด็กนั่งตักสามารถปกป้องลูกได้ดีกว่า แต่ความเชื่อนั้นอาจจะทำให้ “อ้อมกอดที่อบอุ่น” กลายเป็น “อ้อมกอดที่คร่าชีวิตลูกน้อย” ได้ เพราะเมื่อเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจริงๆ นอกจากจะป้องกันเด็กจากเเรงกระเเทกอย่างแรงไม่ได้เเล้ว ทั้งตัวผู้ปกครองเองเเละเด็กก็อาจจะได้รับบาดเจ็บกว่าเดิมก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นคาร์ซีทจึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดแรงเหวี่ยงกระแทกต่อศีรษะบริเวณท้ายทอยและกระดูกสันหลังเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังช่วยจัดท่านั่งที่เหมาะสมสำหรับทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งไม่สามารถพยุงคอและหลังให้ตรงเองได้เวลาผู้ปกครองพาลูกเดินทางด้วยรถยนต์ นอกจากนั้นคาร์ซีทยังถูกออกแบบให้รองรับขนาดตัวและสรีระของเด็กในแต่ละช่วงอายุซึ่งส่วนใหญ่ยังมีความสูงไม่เพียงพอสำหรับใช้งานเข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์ โดยรายงานจาก ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาบอกว่า เมื่อเทียบกับใช้เข็มขัดนิรภัยเพียงอย่างเดียว คาร์ซีทช่วยลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บได้ถึง 71-82% และช่วยลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บสาหัสได้ถึง 45% แสดงให้เห็นว่าการเลือกใช้คาร์ซีทนับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อชีวิตและความปลอดภัยของลูกน้อย เพื่อความปลอดภัยที่สูงสุด คงปฎิเสธไม่ได้ว่าการเลือกใช้ยานพาหนะที่มีระบบความปลอดภัยสูงก็เป็นเรื่องที่ผู้ปกครองควรต้องคำนึงถึงด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อต้องเดินทาง ความปลอดภัยยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ใช่เพียงแค่ต่อตัวลูกน้อยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้โดยสารทุกท่านที่ร่วมเดินทางด้วย เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และการเลือกใช้รถยนต์ที่มีระบบความปลอดภัยสูง จะสามารถลดอัตราการสูญเสียและอัตราการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้ เพียงแค่คาร์ซีทอาจไม่สามารถการันตีความปลอดภัยของลูกน้อยได้ แต่ผู้ปกครองยังต้องคำนึงถึงวิธีการติดตั้งที่ถูกต้องและประเภทของคาร์ซีทที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน กว่า 40 ปีที่วอลโว่ได้ทำการศึกษาวิจัยรวบรวมข้อมูลสถิติของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง เพื่อคิดค้นนวัตกรรมและยกระดับความปลอดภัยของรถยนต์ขึ้นเพื่อปกป้องทุกชีวิตที่มีค่า โดยตั้งแต่ปี พ. ศ. 2507 วอลโว่ได้พัฒนาเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กแบบหันหน้าไปทางด้านท้ายรถเป็นเจ้าแรก และจากผลวิจัยพบว่าเด็กที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี ผู้ปกครองควรติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง เพื่อกระจายแรงกระแทกและลดการบาดเจ็บให้เหลือน้อยที่สุด วอลโว่ยังได้พัฒนาเบาะนั่งเสริมในรถยนต์สำหรับเด็ก หรือ Booster seat ในปี พ.ศ. 2519 และได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในปัจจุบันรถยนต์วอลโว่มาพร้อมกับเบาะนั่งเสริมแบบติดตั้งอยู่ในตัวเบาะที่นั่งโดยตรงที่มีความสูงในการนั่ง 2 ระดับและสามารถปรับตามการเติมโตของเด็กได้เป็นเจ้าแรกของโลก โดยระดับความสูงสามารถปรับเพื่อให้ตำแหน่งการนั่งที่ดีขึ้นตามความสูงของเด็ก พร้อมด้วยตัวปรับความตึงของเข็มขัดนิรภัยและตัวจำกัดแรงดึงที่ได้รับการปรับสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทำให้พ่อแม่และลูกน้อยอุ่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเดินทางด้วยรถยนต์วอลโว่

ความปลอดภัยของ(ลูก)คุณสำคัญ
“เข็มขัดนิรภัย” เป็นอีกหนึ่งระบบความปลอดภัยที่ต้องมีอยู่ในรถยนต์ทุกคัน และผู้โดยสารทุกท่านต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเมื่อออกเดินทางเพื่อความปลอดภัย แต่รู้หรือไม่ว่าวอลโว่เป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ในปี พ.ศ. 2502 และได้เลือกสละสิทธิ์ในสิทธิบัตรของสิ่งประดิษฐ์นี้ เพื่อแบ่งปันเทคโนโลยีนี้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ซึ่งได้มอบความปลอดภัยให้แก่ผู้คนมาแล้วมากกว่าหลายล้านชีวิตทั่วโลก เพราะวอลโว่ใส่ใจและเห็นคุณค่าของชีวิตผู้คนมากกว่าการเป็นผู้นำ วอลโว่ คาร์ คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง และมีวิสัยทัศน์ที่ว่า “ไม่มีผู้ใดควรที่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตภายในรถยนต์รุ่นใหม่ของวอลโว่” (no one should be seriously injured or killed in a new Volvo car) ทำให้วอลโว่ยังคงคิดค้นพัฒนานวัตกรรมความปลอดภัยอย่างไม่หยุดยั้ง ในปัจจุบัน รถยนต์วอลโว่ทุกคันมาพร้อมกับระบบ Driving assistance หรือระบบช่วยเหลือคนขับที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ เพื่อมอบการปกป้องที่เหนือกว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขณะเดินทาง เพื่อส่งมอบความปลอดภัยที่สูงสุดในรถยนต์ของวอลโว่ เนื่องจากผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่า วอลโว่จึงได้พัฒนาระบบความปลอดภัยโดยคำนึงถึงสรีระที่แตกต่างกันของผู้หญิงและผู้ชายเป็นหลัก นอกจากนั้นวอลโว่ยังได้พัฒนาโครงสร้างรถยนต์ เข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัยด้านข้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่เกิดกับผู้โดยสาร นวัตกรรมระบบป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้าง หรือ SIPS (Side Impact Protection System) ของวอลโว่อาศัยโครงสร้างอัจฉริยะเพื่อเพิ่มความปลอดภัยโดยรวม จึงช่วยลดอาการบาดเจ็บรุนแรงบริเวณช่วงอกลงได้มากกว่า 50% สำหรับผู้โดยสารทุกคน วอลโว่ยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะพัฒนาระบบความปลอดภัยของรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์นั้นจะปลอดภัยสำหรับทุกคน ในทุกเพศ และทุกวัย ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกซื้อรถยนต์สักคันนับว่าเป็นการลงทุนในระยะยาว โดยผู้ซื้อควรคำนึงถึงในหลายๆเรื่อง ทั้งในเรื่องของความปลอดภัยของตัวรถ งบประมาณ จุดประสงค์ในการซื้อ หรือแม้กระทั่งไลฟ์สไตล์ของตัวคุณและครอบครัว เพื่อให้มั่นใจว่ารถคันดังกล่าวจะตอบโจทย์ทั้งตัวคุณ ครอบครัว และลูกน้อยได้มากที่สุด สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และรายชื่อศูนย์บริการวอลโว่ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้า 02-161-4144 โดยสามารถดูข่าวสารกิจกรรมล่าสุดของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ https://www.volvocars.com/th-th