เราประกาศการสิ้นสุดของเครื่องยนต์ดีเซลที่งาน Climate Week NYC โดยจะผลิตรถยนต์ดีเซลคันสุดท้ายของเราในต้นปี พ.ศ.2567

ภายในปี พ.ศ.2573 เราวางแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเท่านั้น และตั้งเป้าจะเป็นบริษัทที่มีความเป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศภายในปี พ.ศ.2583 โดยมีแผนงานที่ชัดเจนสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงหนึ่งในแผนการเปลี่ยนแปลงที่ทะเยอทะยานที่สุดในบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประวัติอันยาวนาน

เพื่อเน้นย้ำถึงความยึดมั่นของเราต่อเป้าหมายอันทะเยอทะยานนี้ วันนี้ในงาน Climate Week NYC เราจึงได้ประกาศยุติการผลิตรถยนต์ Volvo ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลทุกรุ่นภายในต้นปี พ.ศ.2567 โดยในอีกไม่กี่เดือนต่อจากนี้ จะมีการสร้างรถยนต์ Volvo ที่ขับเคลื่อนด้วยดีเซลคันสุดท้าย ทำให้ Volvo Cars เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีประวัติอันยาวนานรายแรกที่ดำเนินการขั้นตอนนี้

หลักชัยสำคัญนี้เป็นไปตามการตัดสินใจของเราเมื่อปีที่แล้ว ในการยุติการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปรุ่นใหม่ โดยในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2565 เราได้ขายหุ้นใน Aurobay ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่มีสินทรัพย์ด้านเครื่องยนต์สันดาปที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเรา และเราไม่ได้ใช้จ่ายงบประมาณการวิจัยและพัฒนาไปกับการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปอีกต่อไป

“ระบบส่งกำลังไฟฟ้าคืออนาคตของเรา และเหนือกว่าเครื่องยนต์สันดาป โดยระบบนี้มีเสียงรบกวนน้อยกว่า การสั่นสะเทือนน้อยกว่า ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่าสำหรับลูกค้าของเรา และปราศจากการปล่อยไอเสียโดยสิ้นเชิง” Jim Rowan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเรากล่าว “เรามุ่งเน้นอย่างเต็มที่ในการสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบระดับพรีเมียมที่หลากหลาย ซึ่งจะมอบทุกสิ่งที่ลูกค้าของเราคาดหวังจาก Volvo และเป็นส่วนสำคัญในการตอบสนองของเราต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

ความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินการ

เราทุ่มเทสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มที่เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้อง รายงาน Global Climate Stocktake โดยองค์การสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้ เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ รวมถึงความจำเป็นในการลงมือปฏิบัติ

"สิ่งที่โลกต้องการในตอนนี้ ในช่วงเวลาวิกฤตสำหรับโลกและมวลมนุษยชาติก็คือความเป็นผู้นำ" Jim Rowan กล่าว “ถึงเวลาแล้วที่ผู้นำด้านอุตสาหกรรมและการเมืองจะต้องเข้มแข็งและเด็ดขาด และนำเสนอนโยบายและการดำเนินการที่มีความหมายเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรามุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ในส่วนของเรา และสนับสนุนให้เพื่อนร่วมงานของเรา รวมถึงผู้นำทางการเมืองทั่วโลกทำในส่วนของพวกเขา”เพื่อเน้นย้ำประเด็นนี้เพิ่มเติม Anders Kärrberg ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความยั่งยืนของเราจะเข้าร่วมงานที่จัดโดยกลุ่มพันธมิตร Accelerating to Zero (A2Z) ในงาน Climate Week NYC ประจำปีนี้ A2Z Coalition ซึ่งเปิดตัวที่การประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP27 เป็นแพลตฟอร์มของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายซึ่งเป็นผู้ลงนามใน ปฏิญญากลาสโกลว์ว่าด้วยรถยนต์ปลอดมลพิษ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในนั้น

แพลตฟอร์ม A2Z ช่วยให้เราสามารถประสานงานและทำงานร่วมกับผู้อื่น เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันของกลุ่มพันธมิตรในการ 'ทำให้ยอดขายรถยนต์และรถตู้ใหม่ทั่วโลก 100 เปอร์เซ็นต์ปราศจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายในปี พ.ศ.2583 และไม่ช้ากว่าปี 2578 ในตลาดชั้นนำ'

ถึงแม้เป้าหมายการใช้พลังงานไฟฟ้าของเราเองจะทะเยอทะยานมากกว่านั้น แต่เราหวังว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่นๆ กล้าที่จะดำเนินการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการประกาศเกี่ยวกับเครื่องยนต์ดีเซลในวันนี้ และด้วยการมีส่วนร่วมในการอภิปรายของ A2Z และการประชุมอื่นๆ ในงาน Climate Week NYC

ทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไป

การตัดสินใจของเราในการเลิกใช้เครื่องยนต์ดีเซลโดยสิ้นเชิงภายในต้นปี พ.ศ.2567 แสดงให้เห็นว่าทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์และความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

เมื่อสี่ปีที่แล้วนี่เอง ที่เครื่องยนต์ดีเซลยังเป็นสิ่งสำคัญของเราในยุโรป เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ส่วนใหญ่ โดยรถยนต์ส่วนใหญ่ที่เราขายในทวีปนี้ในปี พ.ศ.2562 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่งเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงเท่านั้น

แนวโน้มดังกล่าวได้พลิกผันไปอย่างมากนับตั้งแต่นั้น โดยได้แรงหนุนจากความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป กฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงการมุ่งเน้นไปที่การใช้พลังงานไฟฟ้าของเรา ยอดขายส่วนใหญ่ของเราในยุโรปในขณะนี้ประกอบด้วยรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเป็นระบบส่งกำลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือระบบปลั๊กอินไฮบริด

การมีรถยนต์ดีเซลบนท้องถนนน้อยลงก็ส่งผลดีต่อคุณภาพอากาศในเมืองเช่นกัน ถึงแม้เครื่องยนต์ดีเซลจะปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน แต่ก็ปล่อยก๊าซอื่นๆ ออกมามากกว่า เช่น ไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ซึ่งส่งผลเสียต่อคุณภาพอากาศโดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสะสมตัวของก๊าซในระดับสูง

การลงทุนที่สำคัญ

เป้าหมายของเราคือการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ภายในกลางทศวรรษ และเฉพาะรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายในปี พ.ศ.2573

แต่ระบบไฟฟ้าอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ ตัวอย่างเช่น ถึงแม้ Volvo C40 ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบจะชาร์จโดยใช้พลังงานที่เป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศ การประเมินวงจรอายุการใช้งานของเรา ก็ยังแสดงให้เห็นว่า รถคันนี้ยังคงต้องรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวน 27 ตันตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งหมายถึงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการผลิตวัสดุและการปรับแต่ง เป็นหัวใจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายระยะสั้น และความทะเยอทะยานด้านสภาพภูมิอากาศในระยะยาวของเรา

ในการจัดการกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากเหล็ก อะลูมิเนียม และแบตเตอรี่ เรากำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อตั้งข้อกำหนดที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับซัพพลายเออร์ของเรา ในการค้นหาวิธีใหม่ๆ ที่ดีกว่าในการผลิตวัสดุเหล่านี้ และเพิ่มสัดส่วนการใช้วัสดุรีไซเคิล

ความทะเยอทะยานและการดำเนินการเหล่านั้นได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนจำนวนมากในเทคโนโลยีใหม่ๆ และความสามารถในการผลิต ด้วยการลงทุนในการดำเนินงานของเราในยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา เรากำลังเตรียมเครือข่ายการผลิตของเราสำหรับอนาคตที่ใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และขณะเดียวกันก็เพิ่มการใช้พลังงานที่เป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศในการดำเนินงานทั่วโลกของเราจากจำนวนประมาณ 66 เปอร์เซ็นต์ในปัจจุบัน

ในสโลวาเกีย เราวางแผนที่จะสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ซึ่งจะสร้างเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น พร้อมกับที่เราได้ลงทุนจำนวนมากในโรงงานที่มีอยู่แล้วของเราเพื่อให้สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้ ส่วนในสวีเดน เราจะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งใหม่ซึ่งใช้พลังงานที่เป็นกลางต่อสภาพภูมิอากาศทั้งหมด โดยร่วมมือกับ Northvolt บริษัทแบตเตอรี่ชั้นนำของสวีเดน