Driver Alert Control
จุดประสงค์ของ DAC คือ เพื่อตรวจจับความสามารถในการขับขี่ที่ลดลงอย่างช้าๆ และมีจุดมุ่งหมายให้ใช้กับถนนหลวง การทำงานนี้ไม่มีจุดมุ่งหมายให้ใช้กับการจราจรในชุมชน
ฟังก์ชันจะเริ่มทำงานเมื่อความเร็วสูงกว่า 65 กม./ชม. (40 ไมล์ต่อชั่วโมง) และจะยังคงทำงานอยู่ต่อไปตราบใดที่ความเร็วยังคงสูงกว่า 60 กม./ชม. (37 ไมล์ต่อชั่วโมง)
กล้องจะตรวจจับเครื่องหมายขอบที่ทาไว้บนช่องทางเดินรถ และเปรียบเทียบการวางแนวของถนนกับการหมุนพวงมาลัยของคนขับ
ถ้าลักษณะการขับขี่ไม่คงที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คนขับจะได้รับการแจ้งเตือนด้วยสัญลักษณ์นี้บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ ร่วมกับเสียงเตือนและข้อความตัวอักษร Time to take a break
นอกจากนี้หากรถยนต์ติดตั้ง Sensus Navigation* และมีการสั่งงานฟังก์ชัน Rest Stop Guidance คำแนะนำเกี่ยวกับจุดแวะพักที่เหมาะสมจะแสดงขึ้นด้วยเช่นกัน
หลังจากผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง จะมีการเตือนซ้ำถ้าลักษณะการขับขี่ยังคงไม่ดีขึ้น
คำเตือน
คำเตือน
ควรให้ความสนใจกับสัญญาณเตือนจาก Driver Alert Control อย่างเต็มที่ เนื่องจากคนขับที่ง่วงนอนมักจะไม่รู้ถึงสภาพของตนเอง
- หยุดรถอย่างปลอดภัยในทันทีที่สามารถทำได้และพักผ่อน
จากการวิจัยพบว่าการขับรถเมื่อมีอาการเหนื่อยล้าจะมีอันตรายเท่ากับการขับขี่ภายใต้ผลกระทบจากแอลกอฮอล์หรือสารกระตุ้นอื่นๆ
คำเตือน
- ฟังก์ชันเป็นการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับคนขับที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยให้สูงขึ้น ฟังก์ชันนี้อาจไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์การจราจร, สภาพอากาศ และสภาพถนนบางรูปแบบได้
- ขอแนะนำให้คนขับอ่านทุกส่วนในคู่มือสำหรับเจ้าของรถที่เกี่ยวข้องกับฟังก์ชันนี้ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อจำกัดของระบบและสิ่งที่คนขับควรทราบก่อนที่จะใช้งานระบบ เป็นต้น
- ฟังก์ชันของระบบช่วยเหลือคนขับไม่ได้เข้ามาแทนความระมัดระวังและการตัดสินใจของคนขับแต่อย่างใด คนขับเป็นผู้รับผิดชอบในการทำให้แน่ใจได้ถึงการขับขี่รถอย่างปลอดภัย, ที่ความเร็วที่เหมาะสม, ด้วยระยะห่างจากรถคันอื่นที่เหมาะสม และเป็นไปตามกฎจราจรและข้อบังคับที่มีผลใช้ในขณะนั้นๆ อยู่เสมอ