ควรซ่อมแซมงานสีที่เสียหายในทันทีเพื่อป้องกันการก่อตัวของสนิม
บันทึก
เมื่อมีการซ่อมแซมสี พื้นผิวของรถจะต้องสะอาดและแห้ง พื้นผิวควรมีอุณหภูมิอย่างน้อย 15 °C (59 °F)
วัสดุที่อาจจำเป็นต้องใช้
- สีรองพื้น - สีรองพื้นแบบกาวชนิดพิเศษในรูปแบบของกระป๋องสเปรย์สำหรับชิ้นส่วนอย่างเช่น กันชนแบบเคลือบพลาสติก เป็นต้น
- สีเคลือบหลักและสีเคลือบใส - มีให้บริการในรูปแบบกระป๋องสเปรย์ หรือปากกาแต้มสี/แท่งสีแต้ม1
- เทปปิดกันเปื้อน
- กระดาษทรายแบบละเอียด
ทาสีแต้มลงบนพื้นผิวที่ได้รับความเสียหาย
ถ้าความเสียหายไม่ลึกจนถึงเนื้อโลหะ หลังจากที่ทำความสะอาดพื้นผิวแล้ว จะสามารถทาสีแต้มลงไปโดยตรงได้
ติดเทปปิดกันเปื้อนบนพื้นผิวที่เสียหาย จากนั้นดึงเทปออกเพื่อให้สะเก็ดสีที่ติดค้างอยู่หลุดออกมา
ถ้าความเสียหายลึกจนถึงเนื้อเหล็ก ให้ใช้สีรองพื้น ในกรณีที่มีความเสียหายของผิวหน้าพาสติก ควรใช้สีกาวรองพื้นเพื่อให้ได้ผลดีขึ้น - ให้ฉีดสเปรย์ลงบนฝาของกระป๋องสเปรย์แล้วใช้แปรงปัดเบาๆ
ถ้าจำเป็น ให้ทำการขัดเบาๆ ด้วยผ้าทรายแบบละเอียดมากก่อนที่จะทำสี (เช่น ถ้ามีขอบที่ไม่เรียบ เป็นต้น) ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดอย่างทั่วถึง (ต้องขจัดจาระบีและเกลือออก) และปล่อยให้แห้ง
คนสีรองพื้นให้เข้ากันดี และแต้มสีรองพื้นให้ทั่วบริเวณโดยใช้พู่กันเนื้อละเอียด, ก้านไม้ขีด หรือวัสดุที่คล้ายกัน เมื่อสีรองพื้นแห้งแล้ว ให้ทาซ้ำโดยใช้สีเคลือบหลักและสีเคลือบใส
สำหรับรอยขีดข่วน ให้ใช้ขั้นตอนเดียวกัน แต่ให้ใช้เทปปิดรอบพื้นผิวที่เสียหาย เพื่อป้องกันงานสีที่ไม่เสียหาย
ปากกาแต้มสีและสีสเปรย์สำหรับตกแต่งงานทำสีมีให้บริการที่ตัวแทนจำหน่ายของวอลโว่
บันทึก
ถ้าไม่มีเศษหินติดอยู่และชั้นสีที่ไม่ได้รับความเสียหาย ให้ทาสารเคลือบผิว (basecoat) และสารเคลือบรองพื้น (clearcoat) ทันที่ที่ทำความสะอาดพื้นผิวแล้ว