ไม่ควรถือว่าค่าที่รับรองสำหรับระยะเดินทางของรถเป็นช่วงระยะเดินทางที่คาดหวังได้ ควรใช้ค่าที่รับรองเป็นหลักในการเปรียบเทียบกับรถยนต์คันอื่นและได้รับมาในระหว่างรอบการทดสอบพิเศษ
บันทึก
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ
![VCC-23w26-iCup-BEV-Battery meter and range value](https://www.volvocars.com/images/support/imgd19869d647db3591c0a80152064ad63f_1_--_--_VOICEpnghigh.png?imwidth=1280)
เมื่อมีการส่งมอบรถจากโรงงาน ช่วงการทำงานจะขึ้นอยู่กับค่าที่ผ่านการรับรอง และเมื่อขับรถไประยะหนึ่ง ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จะอ้างอิงตามรูปแบบการขับขี่ที่เก็บบันทึกไว้เป็นประวัติ
จำนวนประวัติการขับขี่ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ ดังนั้น ยิ่งมีประจุไฟฟ้าในแบตเตอรี่น้อยเท่าใด ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ก็จะปรับตามรูปแบบการขับขี่ที่เปลี่ยนไปเร็วขึ้นเท่านั้น
ระยะทางที่ขับขี่ได้สั้น
ระยะทางที่ขับขี่ได้โดยประมาณของรถจะสั้นลงเมื่อระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ลดลง จอแสดงผลสำหรับคนขับจะแสดงสัญลักษณ์และข้อความจำนวนหนึ่งเมื่อระยะทางที่ขับขี่ได้สั้นลง
สัญลักษณ์ | ข้อความ/ความหมาย |
---|---|
![]() | เมื่อระยะทางที่ขับขี่ได้ลดลงจนต่ำกว่า 50 กม. สัญลักษณ์แบตเตอรี่ที่อยู่ข้างเกจวัดแบตเตอรี่จะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม และข้อความ Low rangeDo you want to find a charging station? จะแสดงขึ้นบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ ข้อความจะไม่แสดงขึ้นถ้ามีการตั้งจุดหมายปลายทางไว้ในระบบนำทาง |
![]() | เมื่อระยะทางที่ขับขี่ได้ลดลงจนต่ำกว่า 20 กม. สัญลักษณ์แบตเตอรี่ที่อยู่ข้างเกจวัดแบตเตอรี่จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง และข้อความ Low rangeDo you want to find a charging station? จะแสดงขึ้นบนจอแสดงผลสำหรับคนขับ |
![]() | เมื่อระดับประจุไฟฟ้าของแบตเตอรี่ต่ำ สัญลักษณ์รูปเต่าสีส้มจะแสดงขึ้นที่ส่วนด้านบนของจอแสดงผลสำหรับคนขับ |
![]() | ข้อความ Reduced power due to low battery charge จะแสดงขึ้นร่วมกับสัญลักษณ์แบตเตอรี่สีส้ม ถ้าสัญลักษณ์รูปเต่ายังไม่ได้แสดงขึ้นก่อนหน้านี้ ก็จะแสดงขึ้นบนจอแสดงผลสำหรับคนขับพร้อมกับเมื่อข้อความนี้แสดงขึ้น |
![]() | ข้อความ Empty battery. Charge battery. จะแสดงขึ้นร่วมกับสัญลักษณ์แบตเตอรี่ที่ว่างเปล่า |
ปัจจัยที่มีผลต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้
นอกเหนือจากข้อมูลระยะเดินทางที่เก็บไว้เป็นประวัติแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ด้วยเช่นกัน ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้จะไกลที่สุดภายใต้สภาพการขับขี่ที่เอื้ออำนวย เมื่อปัจจัยทั้งหมดส่งผลกระทบในเชิงบวก
ตัวอย่างของปัจจัยที่มีผลต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้:
- ความเร็ว
- การตั้งค่าชุดควบคุมสภาพอากาศ
- สภาพภูมิประเทศ
- การปรับสภาพล่วงหน้า
- ยางและความดันลมยาง
- สภาพการจราจร
- อุณหภูมิและอากาศ
- สภาพถนน
ระยะทางที่ขับขี่ได้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิที่เย็นจัด
![P6-22w22-BEV-Cold battery](https://www.volvocars.com/images/support/img9a9d69e26da56a7ec0a80152742f365a_1_--_--_VOICEpnghigh.png?imwidth=1280)
เมื่ออุณหภูมิอากาศภายนอกเย็นจัด จะมีความเสี่ยงที่แบตเตอรี่จะเย็นเกินไป ซึ่งส่งผลเสียต่อระยะทางที่ขับขี่ได้ สัญลักษณ์นี้จะแสดงขึ้นบนจอแสดงผลสำหรับคนขับถ้าอุณหภูมิของแบตเตอรี่ลดลงจนถึงระดับวิกฤต ถ้ารถจอดอยู่ในบริเวณที่อุณหภูมิอากาศภายนอกเย็นจัด จะมีความเสี่ยงที่ระยะทางที่ขับขี่ได้จะลดลงอย่างมาก เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ระยะทางที่ขับขี่ได้ลดลงอย่างมากหลังจากที่จอดรถในอุณหภูมิอากาศภายอกที่เย็นจัด ควรทำการชาร์จรถไว้ในขณะที่จะอยู่
ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ที่ขึ้นอยู่กับความเร็วและอุณหภูมิภายนอก
![P5P6-2017-Reach and speed graph](https://www.volvocars.com/images/support/img7d6fa1e4fc62eec6c0a801526b8da785_1_--_--_VOICEpnghigh.png?imwidth=1280)
อุณหภูมิภายนอก 20 °C (68 °F) และสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร 'ปิดทำงาน'
อุณหภูมิภายนอก 20 °C (68 °F) และสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร 'เปิดทำงาน'
อุณหภูมิภายนอก 35 °C (95 °F) และสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร 'เปิดทำงาน'
อุณหภูมิภายนอก -10 °C (14 °F) และสภาพอากาศภายในห้องโดยสาร 'เปิดทำงาน'
แผนผังจะแสดงความสัมพันธ์โดยประมาณระหว่างความเร็วคงที่กับระยะทางที่สามารถขับขี่ได้
กราฟแสดงให้เห็นว่าความเร็วที่ต่ำลงจะทำให้ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ไกลขึ้น นอกจากนี้ อุณหภูมิภายนอกยังส่งผลต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้อีกด้วย โดยอุณหภูมิอากาศภายนอกที่เย็นหรือร้อนจัดจะส่งผลให้ระยะทางที่สามารถขับขี่ได้สั้นลง
เส้น 1 และ 2 แสดงความแตกต่างโดยประมาณของระยะทางที่สามารถขับขี่ได้ที่ได้รับผลกระทบจากฟังก์ชันการควบคุมสภาพอากาศ การปิดระบบควบคุมสภาพอากาศจะส่งผลดีต่อระยะทางที่สามารถขับขี่ได้