โหมดการขับขี่ต่างๆ ที่มีให้ในรถของท่านล้วนมีความเหมาะสมกับสถานการณ์และประเภทการขับขี่ที่แตกต่างกัน โหมดการขับขี่ที่ท่านเลือกอาจส่งผลต่อลักษณะการขับขี่บางอย่าง เช่น การบังคับเลี้ยว, ระบบกันสะเทือน, การเบรก และการเร่งความเร็ว อีกทั้งยังส่งผลต่อความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและระยะทางที่วิ่งได้โดยประมาณ โหมดการขับขี่ที่แตกต่างกันทำให้สามารถปรับตั้งค่าได้แตกต่างกัน ซึ่งจะสัมพันธ์กับทั้งการขับขี่และสภาพอากาศ
โหมดการขับขี่ที่ท่านเลือกจะแสดงขึ้นเหนือเกียร์ที่เลือกไว้ในจอแสดงผลสำหรับคนขับ
![ไฟแสดงโหมดการขับขี่บนจอแสดงผลสำหรับคนขับ](https://www.volvocars.com/images/support/img1a8b20e55e0244f9c0a801f272329124_1_--_--_PNG.png?imwidth=1280)
รถมีโหมดการขับขี่ 5 โหมด:
Hybrid | โหมดนี้เป็นโหมดเริ่มต้นและแนะนำให้ใช้โหมดนี้ในการใช้งานประจำวัน และรถจะเลือกโหมดนี้โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่สตาร์ทรถ เมื่อขับขี่ในโหมด Hybrid รถจะจัดลำดับความสำคัญให้มอเตอร์อยู่เหนือกว่าเครื่องยนต์ ในบางสถานการณ์หรือในกรณีที่แบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำมาก เครื่องยนต์จะมาทำงานแทนที่เพื่อให้มั่นใจในสมรรถนะการทำงาน หรือเพื่อให้เกิดความสบายตามที่คาดหวัง |
Pure | ในโหมด Pure รถของท่านจะจัดให้มอเตอร์มีความสำคัญสูงสุด โหมดนี้สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อแบตเตอรี่อยู่ในระดับสูง ถ้าระดับแบตเตอรี่ต่ำมากเกินไป รถจะเปลี่ยนไปใช้โหมด Hybrid โดยอัตโนมัติ |
Power | ในโหมด Power สมรรถนะการทำงานจะมีความสำคัญเหนือกว่าระยะทางที่วิ่งได้หรือการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ เพื่อเพิ่มกำลังและสมรรถนะสูงสุด โหมดนี้จะใช้ทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์ |
All-wheel drive1 | โหมด All-wheel drive ช่วยให้การยึดเกาะดีขึ้น และแนะนำให้ใช้โหมดนี้ในสภาพถนนลื่นหรือเมื่อมีการลากพ่วง |
Off-road | โหมด Off-road เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางที่สมบุกสมบันหรือถนนที่มีข้อจำกัดในการเข้าถึง สามารถใช้โหมดนี้เมื่อขับขี่ที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. (25 ไมล์/ชม.) และอาจทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นในขณะขับขี่โดยเลือกโหมดนี้อยู่ |
บันทึก
โหมด Off-road ไม่เหมาะสำหรับการขับขี่บนทางสาธารณะ